จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยาและอื่น ๆ
           ไม้ไผ่ที่ใช้เป็นยารักษาโรค คนไทยใช้รากไผ่ และใบไผ่ผสมกับสมุนไพรบางชนิดใช้เป็นยารักษาโรค
           ไม้ไผ่ที่นำมาทำอาหาร คนไทยและชาวเอเซียนำหน่อไม้มาทำเป็นอาหารต่างๆ จนถึงใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นภาชนะประกอบอาหาร ได้แก่ ใช้เป็นกระบอกข้าวหลาม เป็นต้น

           ไม้ไผ่ที่นำมาใช้ในงานอุตสาหกรรม ไม้ไผ่เป็นวัตถุดิบที่หาได้ไม่ยาก และมีราคาไม่แพง ชาวเอเซียจึงนำไม้ไผ่มาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวประเภทเครื่องจักสาน เครื่องเรือน และเครื่องใช้ต่างๆ จนถึงใช้เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น ใช้ทำเยื่อกระดาษ ใช้เป็นเครื่องเรือนและเครื่องใช้ที่ผลิตด้วยเครื่องจักร

ข้าวหลาม
           ไม้ไผ่เป็นคติสอนใจ เมื่อเจริญเติบโตเป็นกอใหญ่ก็แตกหน่อทวีคูณขึ้นเรื่อยๆลำต้นที่เป็นแม่เปรียบเสมือนหัวแม่มือให้ลูก(หน่อ) แม่จะหาอาหารมาทำนุบำรุงให้เจริญเติบโตแก่ลูกแล้วก็ตายไป แต่ก็ยังมีน้องต่อไปอีก เหมือนนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วก้อย แม่จะมีส่วนเลี้ยงหน่อไม้รวมทั้งลูกคนแรกด้วย จนวาระสุดท้ายที่เรียกว่า "กอไผ่ตายขุยทั้งกอ" เมล็ดไผ่ก็จะงอกเจริญเติบโตเป็นลำไผ่ แตกเป็นกอตามธรรมชาติอีกนับว่า กอไผ่เป็นระบบสังคมที่มีวัฒนธรรมไม่ผิดกับวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
           คำพังเพยที่ว่า "ไผ่ลำเดียวไม่เป็นกอ ปอต้นเดียวไม่เป็นป่า " จะเห็นว่าไผ่แต่ละลำของกอไผ่นั้นต่างช่วยเหลือประคับประคองซึ่งกันและกัน โอกาสที่ลมพายุจะพัดให้โค่นล้มนับว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีลำต้นคอยพยุงค้ำจุนและยึดเหนี่ยวกันอยู่ ผิดกับต้นไม้ใหญ่ๆ ที่อยู่โดดเดี่ยวจะถูกลมพายุพัดพาหักโค่นลงได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ ครูจึงสอนนักเรียนในเรื่องความสามัคคีว่า แขนงไผ่อันเดียวหักได้ ถ้าเอาแขนงไผ่หลายๆ อันมามัดรวมกันไม่สามารถจะหักออกได้ ครูหลายคนบอกว่าการสั่งสอนอบรมนักเรียนให้เป็นคนดี ขยันหมั่นเพียรอยู่ในระเบียบวินัยต้องอาศัย " ต้นยอ กอไผ่ " หมายความว่า ครูต้องรู้จักชมเชยสรรเสริญเยินยอนักเรียนที่กระทำความดี เพื่อให้เกิดกำลังใจและเป็นตัวแอย่างที่ดีแก่คนอื่นด้วย ถ้านักเรียนคนใดชมก็แล้ว เอาใจก็แล้ว ยังดื้อด้าน เถลไถลออกนอกลู่นอกทางก็ต้องใช้กอไผ่ (เรียวไผ่) เสียบ้างให้หราบจำ เพราะคำโบราณที่ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี " ยังมีประโยชน์อยู่
  
           แม้ไผ่จะโตเร็วและปลูกง่ายก็ตามแต่ปริมาณการใช้ไม่สมดุลกับไผ่ที่มีอยู่แล้ว ในอนาคตโลกอาจจะขาดแคลนไม้ไผ่ก็ได้ เฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศไทยซึ่งเคยเป็นแหล่งที่มีไม้ไผ่หลายสกุลหลายชนิด แต่ด้วยการใช้ไผ่อย่างฟุ่มเฟือยและไม่ใคร่เห็นคุณค่า ทุกวันนี้ "ไม้ไผ่" จึงเป็นวัตถุดิบที่เริ่มขาดแคลนแล้ว และหากไม่มีการปลูกชดเชยและใช้ไม้ไผ่อย่างเห็นคุณค่า ประเทศไทยก็อาจจะขาดแคลนไม้ไผ่วัตถุดิบธรรมชาติที่มีความผูกพันกับชีวิตของคนไทยมาช้านานก็เป็นได้ สมควรที่เราคนไทยจะได้มองเห็นคุณค่าของไม้ไผ่ งานไม้ไผ่ ก่อให้เกิดการอนุรักษ์ไผ่และงานไม้ไผ่ให้คงอยู่สืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น